ม๊อบสวนยาง
ม็อบสวนยาง(ควนหนองหงส์) ดูท่าจะจบลงยาก
เพราะ...? ที่เวทีการนำม็อบควนหนองหงส์ ได้
"มีการช่วงชิงการนำ"ของการเมืองท้องถิ่นหลายฝ่าย
เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งในสนามท้องถิ่นช่วงปลายปีนี้ มีการปฏิเสธ
"ตัวแทนหรือคนกลาง" ที่เป็น สส.ในพื้นที่ (สส. ปชป.
จังหวัดนครศรีธรรมราช) กลุ่มชาวสวนยางที่เป็น"ชาวสวนยางจริงๆ"
มีทั้ง 2 ฟากฝั่งถนนสายเอเชีย
(โดยเฉพาะชาวสวนยางจากฟากตะวันตกจากถนนสาย 41
ไปจรดเทือกเขาบรรทัด และฟากตะวันออกถนนสาย 41) การมีคำสั่งจังหวัดฯ
ประกาศห้ามประชาชนเข้าพื้นที่ของศูนย์อำนวยการฯ (ของจังหวัดนครศรีธรรมราช)
ยิ่งเป็นการยั่วยุให้เกิดความท้าทายต่ออำนาจรัฐ
ผู้ชุมนุมยิ่งเข้าใจว่า จะมีการเข้าสลายจึงต้องออกมาช่วยกันมากๆ การขอคืนพื้นที่
(คำที่ฝ่ายรัฐใช้)
หรือการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปฏิบัติตามหลักสากลอย่างแท้จริง สื่อ, นักปกครอง, ตร.,
การเมือง ฯลฯ ต่างฝ่ายต่างพูดถึงบริบทและนำเสนอมุมมองของตนเอง
ต่างฝ่ายต่างมีส่วนเติมเชื้อไฟ แล้วป้ายความผิดให้แก่
"เกษตรกรชาวสวนยาง" บางฝ่ายอ้างว่า
"ม็อบไม่ใช่เกษตรกรชาวสวนยางจริง การบัญชาการจากส่วนหลางทั้งในรัฐบาล(ในเรื่องราคายาง)
และ สตช. (ในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย) ล้วนเป็นเงื่อนไขและสร้างความอึดอัด
คับข้องใจให้แก่ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมทั้งสองเรื่องที่กล่าวนี้ การบัญชาการจากส่วนหลางทั้งในรัฐบาล(ในเรื่องราคายาง) และ สตช.
(ในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย) ล้วนเป็นเงื่อนไขและสร้างความอึดอัด
คับข้องใจให้แก่ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมทั้งสองเรื่องที่กล่าว นี้ สื่อกระแสหลักไม่ได้รับความเชื่อถือจากกลุ่มผู้ชุมนุม
จึงเข้าพื้นที่ไม่ได้ แต่อาศัยการ"ยืนอยู่ข้างหลัง ตร."
และ"แชร์ข่าว"ต่อๆ กัน ฝ่ายปกครอง ตลอดจนฝ่ายความมั่นคงอ้างแต่เพียงว่าม้อบมีการเมืองหนุนหลัง
แต่ไม่ย้อนมองมาที่ตนเองว่ามีส่วนในการใช้ความรุนแรงตร.
อ้างเหตุผลความวุ่นวายที่เกิดขึ้นว่ามีเหตุผลพอในการใช้กำลังจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าไปสลายการชุมนุม
แต่ถูกผู้ชุมนุมตีโต้กลับคืน การเจรจาเรื่องการประกันราคายางและการช่วยเหลือชาวสวนยางก็เป็น"การช่วงชิงบทบาทการนำ"ของผู้ประสานภาคีเครือข่ายฯ(บางคน)
ทำให้การเจรจาต้องยุติลงไปตามที่รัฐบาลกำหนดไว้
ซึ่งกลายเป็น"ข้ออ้าง"ของรัฐบาลที่จะไม่ยอมเจรจากับฝ่ายใดอีก
นี่เป็นข้อมูลที่รวบร่วมมา แต่ ในทัศนคติส่วนตัว ปัญหาม๊อปชาวยางเป็นปัญหาที่สำคัญ พารัฐต้องรีบเร่งแก้ไขปัญหา ซึ่งพารัฐก็ได้ดำเนินการไปอย่างถูกวิธีโดยการเปิดโต๊ะเจรจากับผู้ชุมนุม และมีข้อตกลงกัน แต่ต้องนี้เกิดอะไรขึ้น มีการชุมนุมอีกครั้ง กระทบไป ทั้วประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ผมก็มีเพื่อนอยู๋ภาคใต้เป็นจำนวนมาก เขาก็บอกว่ามีหลายคนออกมาเพราะ ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม ในแก่ผู้ชุมนุม แต่ตอนนี้การเกิดความรุนแรงไม่ใช่ทางออกที่ถูก ผมเชื่อว่าภาครัฐก็อยากจะจบเรื่องนี้ ส่วนของประชาชนก็อยากจะยุติ เพราะฉะนั้นพบกันครึ่งทางเพื่อ คว่ามพอดี พอประมาณ พอเพียง นึกถึงประเทศเป็นสำคัญ ไม่ใช่อะไรก็ประท้วง อะไรก็ไม่สนใจ ประชาชน ดังนั้น ประเทศเราจะเดินไปได้ นั้น คนในชาติต้องพร้อมที่จะเดินไปพร้อมกันด้วยความสามัคคี ครับ
ขอขอบคุณ
แหล่งข้อมูล http://www.oknation.net/blog/nn1234/2013/09/17/entry-1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น