วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

ม๊อบสวนยาง คือ เสียงจากคนในสังคม หรือ ปัญหาของสังคม

   


ม๊อบสวนยาง






ม็อบสวนยาง(ควนหนองหงส์) ดูท่าจะจบลงยาก เพราะ...?                               ที่เวทีการนำม็อบควนหนองหงส์ ได้ "มีการช่วงชิงการนำ"ของการเมืองท้องถิ่นหลายฝ่าย เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งในสนามท้องถิ่นช่วงปลายปีนี้ มีการปฏิเสธ "ตัวแทนหรือคนกลาง" ที่เป็น สส.ในพื้นที่ (สส. ปชป. จังหวัดนครศรีธรรมราช) กลุ่มชาวสวนยางที่เป็น"ชาวสวนยางจริงๆ" มีทั้ง 2 ฟากฝั่งถนนสายเอเชีย (โดยเฉพาะชาวสวนยางจากฟากตะวันตกจากถนนสาย 41 ไปจรดเทือกเขาบรรทัด และฟากตะวันออกถนนสาย 41) การมีคำสั่งจังหวัดฯ ประกาศห้ามประชาชนเข้าพื้นที่ของศูนย์อำนวยการฯ (ของจังหวัดนครศรีธรรมราช) ยิ่งเป็นการยั่วยุให้เกิดความท้าทายต่ออำนาจรัฐ  ผู้ชุมนุมยิ่งเข้าใจว่า จะมีการเข้าสลายจึงต้องออกมาช่วยกันมากๆ การขอคืนพื้นที่ (คำที่ฝ่ายรัฐใช้) หรือการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปฏิบัติตามหลักสากลอย่างแท้จริง     สื่อ, นักปกครอง, ตร., การเมือง ฯลฯ ต่างฝ่ายต่างพูดถึงบริบทและนำเสนอมุมมองของตนเอง ต่างฝ่ายต่างมีส่วนเติมเชื้อไฟ แล้วป้ายความผิดให้แก่ "เกษตรกรชาวสวนยาง" บางฝ่ายอ้างว่า "ม็อบไม่ใช่เกษตรกรชาวสวนยางจริง การบัญชาการจากส่วนหลางทั้งในรัฐบาล(ในเรื่องราคายาง) และ สตช. (ในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย) ล้วนเป็นเงื่อนไขและสร้างความอึดอัด คับข้องใจให้แก่ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมทั้งสองเรื่องที่กล่าวนี้  การบัญชาการจากส่วนหลางทั้งในรัฐบาล(ในเรื่องราคายาง) และ สตช. (ในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย) ล้วนเป็นเงื่อนไขและสร้างความอึดอัด คับข้องใจให้แก่ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมทั้งสองเรื่องที่กล่าว นี้    สื่อกระแสหลักไม่ได้รับความเชื่อถือจากกลุ่มผู้ชุมนุม จึงเข้าพื้นที่ไม่ได้ แต่อาศัยการ"ยืนอยู่ข้างหลัง ตร." และ"แชร์ข่าว"ต่อๆ กัน     ฝ่ายปกครอง ตลอดจนฝ่ายความมั่นคงอ้างแต่เพียงว่าม้อบมีการเมืองหนุนหลัง แต่ไม่ย้อนมองมาที่ตนเองว่ามีส่วนในการใช้ความรุนแรงตร. อ้างเหตุผลความวุ่นวายที่เกิดขึ้นว่ามีเหตุผลพอในการใช้กำลังจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าไปสลายการชุมนุม แต่ถูกผู้ชุมนุมตีโต้กลับคืน การเจรจาเรื่องการประกันราคายางและการช่วยเหลือชาวสวนยางก็เป็น"การช่วงชิงบทบาทการนำ"ของผู้ประสานภาคีเครือข่ายฯ(บางคน) ทำให้การเจรจาต้องยุติลงไปตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ซึ่งกลายเป็น"ข้ออ้าง"ของรัฐบาลที่จะไม่ยอมเจรจากับฝ่ายใดอีก

        นี่เป็นข้อมูลที่รวบร่วมมา แต่ ในทัศนคติส่วนตัว  ปัญหาม๊อปชาวยางเป็นปัญหาที่สำคัญ พารัฐต้องรีบเร่งแก้ไขปัญหา  ซึ่งพารัฐก็ได้ดำเนินการไปอย่างถูกวิธีโดยการเปิดโต๊ะเจรจากับผู้ชุมนุม และมีข้อตกลงกัน  แต่ต้องนี้เกิดอะไรขึ้น มีการชุมนุมอีกครั้ง กระทบไป ทั้วประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ  การชุมนุมครั้งนี้ผมก็มีเพื่อนอยู๋ภาคใต้เป็นจำนวนมาก เขาก็บอกว่ามีหลายคนออกมาเพราะ ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม  ในแก่ผู้ชุมนุม  แต่ตอนนี้การเกิดความรุนแรงไม่ใช่ทางออกที่ถูก ผมเชื่อว่าภาครัฐก็อยากจะจบเรื่องนี้  ส่วนของประชาชนก็อยากจะยุติ  เพราะฉะนั้นพบกันครึ่งทางเพื่อ คว่ามพอดี  พอประมาณ พอเพียง นึกถึงประเทศเป็นสำคัญ ไม่ใช่อะไรก็ประท้วง อะไรก็ไม่สนใจ ประชาชน  ดังนั้น  ประเทศเราจะเดินไปได้ นั้น คนในชาติต้องพร้อมที่จะเดินไปพร้อมกันด้วยความสามัคคี ครับ

ขอขอบคุณ
             แหล่งข้อมูล http://www.oknation.net/blog/nn1234/2013/09/17/entry-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น